รูปหล่อโบราณ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง

*หลายท่านไม่รู้ทำไมต้อง #เนื้อตะกั่วหล่อวัดโพธิ์ทรายทอง (เพราะซึมซับพุทธคุณได้ดีที่สุด แต่ชุ่มเย็น กันเหนียว ปลอดภัย แคล้วคลาดแบบเหลือเชื่อ) พุทธคุณเด่นด้านเสน่ห์หา เมตตามหานิยมแรง คงกระพัน เสริมบารมี สุขสมหวังครบเครื่องเรื่องความปลอดภัย ในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ที่หาได้อยากในเนื้ออื่น เพราะอุดผงพุทธคุณสีขาวนวลเช่นเดียวกับหล่อโบราณราคาหลักล้าน

" อันของ ดี มีอยู่แต่รู้ยาก
คนรู้มากไม่รู้ ดี มีอีกโข
อันของ ดี ใช่อยู่ที่คำโว
ต้องคนรู้ดูเป็นจึงเห็น ดี "

" โยภาวนาภิมัณฑัสสะ ปูชังนิจจังกะโรติโส ลาภัง ยะสัง สุขาทีนิ สัพพะทาอะธิคัชชะตีติ " นะโมพุทธายะ นะโมนะนะ 3จบ

(พระครูภาวนาภิมนฑ์)...หลวงปู่สุข ธรรมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง อ.ละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เกจิดังของอีสานใต้ ที่ชั่วโมงนี้ดังระดับประเทศ
...หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง ท่านนับเป็นอาจารย์อีกรูปหนึ่งของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านพบหลวงปู่สุข คราวปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษ ที่ท้องสนามหลวง ขณะนั้นหลวงปู่โต๊ะ ท่านดังมาก ซึ่งเวลาพักจากปลุกเสกในพิธีนี้ หลวงปู่โต๊ะท่านทราบได้ด้วยจิต ว่าหลวงปู่สุขท่านเก่งมากมีพลังจิตแก่กล้ามาก เวลาพักปลุกเสกท่านให้ลูกศิษย์พาเข้าไปกราบหลวงปู่สุขเลย และขอฝากตัวเป็นศิษย์ ซึ่งภายหลังท่านได้ต่อวิชาหลายอย่างจากหลวงปู่สุข ขณะปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษนั้น ฝนตกหนัก ลูกศิษย์ท่านก็เอาใบจากมาทำเพิงบังฝน ลูกศิษย์เปียกปอนกันหมด แต่หลวงปู่สุขท่านจีวรไม่ได้เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย จนเป็นที่กล่าวขานถึงความศักสิทธิ์ หลวงปู่สุขท่านเป็น"พระอรหันต์"ในที่ห่างไกลความเจริญ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่อินทร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคงวัดถนนหักใหญ่ซึ่งหลวงพ่อคงท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เคยมีคนเอาของของท่านไปลอง เป็นเครื่องยาสมุนไพรเป็นว่าน ท่านเอามาห่อผ้าให้คนเอาไปใช้บูชา ดีทางมหาอุดมาก ยิงไปนัด1นัด2ไม่ออก พอนัด3ปืนแตก มือแหก การเสกของท่านคล้ายกันกับหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค คือจับๆแล้วเป่าๆแค่นั้น

...มีผู้กล่าวว่าท่านสำเร็จวิชาย่นระยะทางไป – กลับได้ กำหนดรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีความศักดิ์สิทธิ์แม่นยำในการทำนายทายทักเหตุการณ์ต่างๆไว้ล่วงหน้าได้จริงเหมือนตาเห็น สามารถที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ตลอดจนคุณวิเศษต่างๆ ได้โดยไม่เคยอวดอ้าง ซึ่งวิชาดังกล่าวจะบังเกิดเฉพาะท่านที่ปฏิบัติทางวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งได้ญาณสมาบัติขั้นสูงถึงขั้นอภิญญา 6 เท่านั้น อภินิหาร พุทธาคม และความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าสืบทอดกันมา...
" ดังเมื่อย้อนไปครั้งที่ครูบาสร้อย ขันติสาโร ศิษย์เอก ในระหว่างอยู่ศึกษากับหลวงปู่สุขอยู่นั้น ท่านได้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างแรงขณะปฏิบัติสมาธิอยู่บนศาลา จึงขอหลวงพ่อสุขไปพัก โดยระหว่างนั้นเองขณะนอนลงพัก วิญญาณของท่านก็ได้หลุดจากร่าง ซึ่งการมรณะ(วิญญาณหลุดจากร่างไป)ครั้งนี้ ท่านได้สิ้นลมไป 7 วันเต็ม ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงปู่สุขได้ทำพิธีเพื่อตามท่าน นำท่านกลับมาได้ (ซึ่งวิชาเดียวกันนี้ท่านได้ใช้ช่วยชีวิตเด็กชาวกะเหรี่ยงให้ฟื้นคืนมาแล้ว)
...ท่านมีอภิญญาสูงเปี่ยมเวทย์วิทยาคม มีเมตตาไม่เคยยึดติด สมถะเรียบง่าย ไม่สะสม และไม่ยินดีในลาภยศสรรเสริญ เช่นที่หลวงปู่เคยกล่าวในคราวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูฯว่า " ก็ข้าเป็นพระแล้วจะให้ข้าเป็นอะไรอีก "...ท่านนิยมสอนสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐานให้กับบุคคลโดยทั่วไป ผู้ถือศีล สามเณร และพระภิกษุ โดยท่านจะให้ผู้ขอขึ้นกัมฏฐานกับท่านใช้องค์ภาวนาซึ่งเป็นภาษาเขมรว่า “อะ อา แอ๊ก ไอ นะ นู เน นิ นัง”

...ลูกศิษย์ใกล้ชิดจะทราบกันดีว่า หลวงปู่สุขท่านเก่งและสำเร็จในเรื่องยันต์ "นะ"...อย่างที่หลวงปู่โฉม วัดอัมภาราม(ลูกศิษย์ผู้ได้รับมองคันธนูอาคมจากหลวงปู่สุข) ท่านเคยเล่าให้ฟังตอนศิษย์จากกรุงเทพมาขอให้ท่านลงหลังให้ว่า " หลวงพ่อสุขท่านไม่เคยลงเลขยันต์อะไรมากมาย ท่านว่าแค่นะตัวเดียวก็ขลัง ซึ่งปัจจุบันวิชาสายนี้ก็คงเหลือเพียงไม่กี่องค์ที่ทำได้ "...ท่านยังบอกอีกว่า " หลวงพ่อสุขนี้เป็นพระอรหันต์มีพลังจิตลึกล้ำพิสดาร " และหลวงปู่สุขท่านไม่ค่อยจารวัตถุมงคลกันง่ายๆ ซึ่งจะหาวัตถุมงคลที่มีรอยจารได้ยากมากๆ คนทั่วไปมักรู้จักหรือได้ยินได้ฟังประสบการณ์ของหลวงปู่ด้านเหนียว คงกระพันเป็นหลัก หากแต่ยังไม่รู้ถึงด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม อุดมทรัพย์ แคล้วคลาดปลอดภัย ทีมีครบเครื่องเช่นเดียวกัน

หล่อโบราณเนื้อตะกั่ว ปี13 ฉลองเลื่อนสมณศักดิ์ ผิวเดิมมุ้งกระจาย พรายปรอทขึ้นทั่วองค์ เลี่ยมเลนส์เก่าชั้นครูสุดคลาสสิค

(เนื้อตะกั่ว) ซึ่งทางคติของการเล่นแร่แปรธาตุถือว่า ตะกั่วมีคุณสมบัติในการซึมซับพลังจิต และพลังเหนือโลกดีกว่าธาตุอื่นๆ ชนิดที่ดี แรง ขลัง ตะกั่วมีกระแสการดูดซึมซับและรับพลังจิตจากผู้เสกเข้าไปได้ง่าย และรวดเร็วมาก
...ตามตำราโบราณยกให้ตะกั่วเป็นโลหะที่ซึมซับพุทธคุณได้ดีกว่าโลหะอื่น ทั้งยังเป็นโลหะเนื้อเย็นอีกด้วย...ยิ่งตะกั่วเถื่อน เป็นของดีที่เกิดเองตามธรรมชาติ เป็นโลหะธาตุ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง และเมื่อนำมาหล่อหลอมจัดสร้างวัตถุมงคล ก็จะทวีความศักดิ์สิทธ์มากกว่าโลหะชนิดอื่นใดทั้งมวล เรียกว่า "ดีนอกและดีใน" ให้คุณทาง มหาอุตม์และคงกระพัน เป็นเมตตามหานิยม ยิ่งนักแลฯ คำว่า ตะกั่วเถื่อน" ความหมายมิได้ยุ่งยากหรือซับซ้อนอันใดเลย แปลตรงตัวก็คือก้อน"ตะกั่วเถื่อน" ที่พบเองในธรรมชาติ ซึ่งยังมิได้ผ่านขบวนการเล่นแร่แปรธาตุ หรือยังมิได้ผ่านการถลุงแร่ คนโบราณจึงเรียกว่า"เถื่อน" และไม่มีรูปทรงที่แน่นอนแล้วแต่ธรรมชาติสรรสร้างรูปทรงขึ้นนั่นเอง และยังมีแบบ"ตะกั่วนม" ที่มีรูปทรงชัดเจนแลดูคล้ายๆเต้านม(โบราณก็เลยเรียกตะกั่วนม) หรือก้อนดินสอพองขนาดใหญ่นั่นเอง ซึ่งตะกั่วนมชนิดนี้ จะพบเจอมากทางเขตภาคตะวันตกของประเทศไทย ทางด้านเมืองกาญจนบุรี และภาคอิสานบ้าง

...ในครั้งใดที่ "หลวงพ่อคูณ" ท่านคิดจะจัดสร้างวัดถุมงคลใดๆ เพื่อให้ศิษย์ได้ไว้คุ้มครองตัว "หลวงพ่อคูณ" ท่านจะสั่งให้คณะศิษย์นำโลหะธาตุ "ตะกั่วเถื่อน"ที่ขุดได้ นำไปจัดสร้างพระทุกครั้งไป ดังจะเห็นวัตถุมงคลของวัดบ้านไร่ หลายๆรุ่นจะจัดสร้างด้วยเนื้อตะกั่วเถื่อนเป็นคำสั่งและดำริของ"หลวงพ่อคูณ" ทั้งสิ้น กล่าวคือพระที่จัดสร้างด้วยเนื้อตะกั่วเถื่อน "หลวงพ่อคูณ" และคณะกรรมการวัดจัดสร้างเองแทบทุกรุ่น เหตุเพราะว่า"หลวงพ่อคูณ" ท่านได้ร่ำเรียนและเจนจบการปลุกเสกพระเครื่องหรือเครื่องราง ด้วย"ตะกั่วเถื่อน" ได้อัศจรรย์และก่อปาฎิหารย์มานักต่อนักนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ด้วยว่าท่านเรียนมาจากท่านพระอาจารย์คง พุทธสโร วัดถนนหักใหญ่ ปรมาจารย์เก่ายุคอินโดจีน โลหะธาตุตะกั่วเถื่อนนี่แหละ ที่หลวงพ่อคูณ ท่านปลุกเสกให้อย่างเข้มขลัง น่าใช้กว่าพระที่จัดสร้างจากโรงงานแล้วนำมาปลุกเสกยิ่งนัก ดังจะเห็นวัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณ หลายๆรุ่นท่านจะสั่งให้คณะศิษย์ไปขุดหา มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อคูณ ท่านต้องออกไปค้นหาก้อนตะกั่วเถื่อนนี้ ด้วยตัวท่านเองกับคณะศิษย์ ต้องไปถึงประเทศลาว แล้วจึงนำกลับมาที่วัดบ้านไร่ เพื่อจัดสร้างพระและวัตถุมงคล นั่นก็แสดงว่า หลวงพ่อคูณ ท่านให้ความสำคัญกับธาตุโลหะ ตะกั่วเถื่อนนี้ยิ่งกว่าโลหะชนิดอื่นใด ให้สังเกตุดูเถอะ ทำไมโลหะธาตุอื่นๆซึ่งหาได้ง่ายกว่า และจัดสร้างพิมพ์พระได้สวยงามกว่า ทำไมหลวงพ่อคูณ ท่านต้องใช้ตะกั่วเถื่อนไปจัดสร้างพระ ขนาด"พระยอดธง" ที่"หลวงพ่อคูณ" และวัดบ้านไร่ จัดสร้างขึ้น ทำไมเพราะเหตุใด! ต้องใช้ตะกั่วเถื่อน ดังมีเกจิอาจารย์หลายท่านเคยพูดถึงหลายต่อหลายรูป เช่นลป.สุข ลป.ทิม ลป.โต๊ะ ลป.นิล ลพ.คง ลพ.คูณ ลป.กาหลง เขี้ยวแก้ว อ.ทอง วัดสำเภาเชย ลพ.ไสว วัดปรีดาราม และลพ.ชำนาญ เป็นต้น!